กลุ่ม A : กาตาร์ (เจ้าภาพ) , เนเธอร์แลนด์ , เอกวาดอร์ , เซเนกัล - สสวท
เนเธอร์แลนด์ VS สหรัฐอเมริกา : พรีวิว ฟุตบอลโลก 2022 (ช่อง
เที่ยวบินราคาถูกจากสหรัฐอเมริกาไปเนเธอร์แลนด์ - Skyscanner
2373 (ค. 1830) ก่อนจะได้รับการรับรองเอกราชอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ. 2382 (ค. 1839) เนเธอร์แลนด์ประกาศเลิกทาสเมื่อ ค. 1863 ก่อนจะเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 เนเธอร์แลนด์ประกาศความเป็นกลางในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ระหว่างปี พ. 2457-2461 และประกาศความเป็นกลางอีกครั้งหนึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างไรก็ดี กองทัพเวร์มัคท์ ได้รุกรานและยึดครองเนเธอร์แลนด์ ในช่วงระหว่างปี พ.
กลุ่ม A – เนเธอร์แลนด์ พบ กาตาร์ : สนามอัล เบย์ท สเตเดียม เวลา
ประเทศเนเธอร์แลนด์ - วิกิพีเดียจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ฮอลแลนด์" หรือ "ฮอลันดา" เป็นชื่อเก่าของเนเธอร์แลนด์ สำหรับความหมายอื่นดูที่ ฮอลแลนด์ (แก้ความกำกวม) เนเธอร์แลนด์Nederland (ดัตช์) ธงชาติ ตราแผ่นดิน คำขวัญ: Je Maintiendrai (ฝรั่งเศส)("ข้าจะพิทักษ์")เพลงชาติ: "Wilhelmus van Nassouwe" (ดัตช์)"วิลเฮลมัสแห่งนัสซอ"ที่ตั้งของ เนเธอร์แลนด์ในทวีปยุโรป (เขียวเข้ม)– ในทวีปยุโรป (เขียว & เทาเข้ม)– ในสหภาพยุโรป (เขียว)ที่ตั้งของ เทศบาลของเนเธอร์แลนด์ในทะเลแคริบเบียน (เขียว)เมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดอัมสเตอร์ดัม[a]52°22′N 4°53′E / 52. 367°N 4. 883°Eศูนย์กลางอำนาจเดอะเฮก[a]ภาษาราชการภาษาดัตช์2การปกครองรัฐเดี่ยว ระบบรัฐสภา ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ• พระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลม-อเล็กซานเดอร์• นายกรัฐมนตรี มาร์ก รีตเตอ• มกุฎราชกุมารี เจ้าหญิงคาทารีนา-อะมาเลีย เจ้าหญิงแห่งออเรนจ์เอกราช จาก สงครามแปดสิบปี• ประกาศ 26 กรกฎาคม ค.
6 ตามมาตราริกเตอร์ ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่ารวมราว 6. 5 พันล้านยูโร และประมาณ 35, 000 ครัวเรือนได้รับความเสียหาย[27] ประมาณการกันว่าเนเธอร์แลนด์มีแหล่งก๊าซธรรมชาติคิดเป็นร้อยละ 25 ของปริมาณก๊าซสำรองตามธรรมชาติของยุโรป[28] อุตสาหกรรมพลังงานนั้นจึงสร้างรายได้กว่าร้อยละ 11 ของจีดีพีของประเทศ(ในปี ค.
↑ Permanent Mission of the Netherlands to the UN. "General Information". สืบค้นเมื่อ 26 June 2013. ↑ "The Reuters Style Guide". สืบค้นเมื่อ 31 March 2014. ↑ "The BBC News Styleguide" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-02-27. สืบค้นเมื่อ 31 March 2014. ↑ "Telegraph style book: places and peoples". สืบค้นเมื่อ 31 March 2014. ↑ "The Guardian style guide" (PDF). สืบค้นเมื่อ 31 March 2014. ↑ "Milieurekeningen 2008" (PDF). Centraal Bureau voor de Statistiek. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2010-02-15. สืบค้นเมื่อ 4 February 2010.
ศ. 1581• เป็นที่ยอมรับ 30 มกราคม ค. 1648 (จาก สเปน)พื้นที่• รวม41, 526 ตารางกิโลเมตร (16, 033 ตารางไมล์) (132)• แหล่งน้ำ (%)18. 41%ประชากร• 22 กุมภาพันธ์ 2565 ประมาณ17, 692, 900 (66)• สำมะโนประชากร 255917, 045, 900• ความหนาแน่น395 ต่อตารางกิโลเมตร (1, 023. 0 ต่อตารางไมล์) (15)จีดีพี (อำนาจซื้อ)2560 (ประมาณ)• รวม$ 915. 175 พันล้าน• ต่อหัว$ 53, 581จีดีพี (ราคาตลาด)2560 (ประมาณ)• รวม$ 824. 480 พันล้าน• ต่อหัว$ 48, 271จีนี (2019) 26. 6[1]ต่ำ · อันดับที่ 15เอชดีไอ (2019) 0.
สหรัฐ เฉือน อิหร่าน กอดคอ อังกฤษ ฉลุย16ทีม รอดวลเนเธอร์แลนด์
2017[20] และเป็นประเทศแห่งนวัตกรรมอันดับ 2 ของโลกในปี ค. 2018[21] คู่ค้าที่สำคัญของเนเธอร์แลนด์ได้แก่ เยอรมนี เบลเยียม สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส อิตาลี จีน และรัสเซีย[22] เนเธอร์แลนด์ติดอันดับประเทศที่ส่งออกมาที่สุด 10 อันดับแรก โดยสินค้าส่งออกหลักคือ อาหาร เคมีภัณฑ์ โลหะ เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า การบริการ และการท่องเที่ยว โดยมีบริษัทสัญชาติดัตช์ขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจข้ามชาติอยู่มากมาย อาทิ Unilever เบียร์ Heineken สายการบิน KLM ธนาคาร ING, ABN AMRO, Rabobank เคมีภัณฑ์ DSM, AKZO ปิโตรเลียม Royal Dutch Shell เครื่องใช้ไฟฟ้า Philips, ASML และระบบนำร่องดาวเทียม TomTom เนเธอร์แลนด์ เป็นส่วนหนึ่งของยูโรโซนหรือกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร (สีน้ำเงินเข้ม) และกลุ่มตลาดเดียวของสหภาพยุโรป (สีน้ำเงิน) เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 17 ของโลก และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)เฉลี่ยต่อจำนวนประชากรสูงที่สุดเป็นอันดับ 10 ของโลก ในช่วง ค.
1815 และมีระบบรัฐสภาตั้งแต่ ค. 1848 มีสมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลิม-อเล็กซานเดอร์แห่งเนเธอร์แลนด์ พระมหากษัตริย์แห่งเนเธอร์แลนด์ทรงเป็นประมุขของประเทศและทรงอยู่เหนือการเมือง บริหาร[แก้] การบริหารประเทศนั้นเป็นหน้าที่รับผิดชอบของฝ่ายรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี ซึ่งประกอบไปด้วยรัฐมนตรี 13 ถึง 16 คนโดยมีรัฐมนตรีลอยอยู่ในคณะ 1-3 คน มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันคือ มาร์ก รุตเตอ ซึ่งดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่เดือนตุลาคม ค. 2010 นิติบัญญัติ[แก้] เนเธอร์แลนด์ใช้ระบบสองสภาในกระบวนการนิติบัญญัติ โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 150 คนทำหน้าที่ในสภาล่างและมาจากการเลือกตั้งโดยตรงตามสัดส่วนของการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ มีการจัดเลือกตั้งทุก 4 ปีหรือเมื่อมีการยุบสภา และมีอำนาจในการเสนอและแก้ไขกฎหมาย ส่วนสมาชิกวุฒิสภาหรือสภาบนมีทั้งหมด 75 คน และมาจากการเลือกตั้งทุก 4 ปีเช่นเดียวกัน มีอำนาจในการปฏิเสธข้อกฎหมายที่สภาล่างเสนอเข้ามา นอกจากนี้ สมาชิกบางส่วนของทั้งสองสภายังเป็นสมาชิกของสภาเบเนลักซ์ระหว่างประเทศอีกด้วย ตุลาการ[แก้] รูปแบบการเมือง[แก้] สหภาพการค้าและองค์กรลูกจ้างต่างๆของเนเธอร์แลนด์จะมีการประชุมกันอย่างสม่ำเสมอเพื่อปรึกษาหารือกันด้านนโยบายการเงิน เศรษฐกิจและสังคม ก่อนจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะการสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ และคณะกรรมการจะนำใจความไปเสนอต่อรัฐบาลต่อไป เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่เปิดเสรีทางความคิดมาอย่างช้านาน นับตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 เช่นการเปิดรับคริสตจักรปฏิรูปให้ได้รับการยอมรับเช่นเดียวกับนิกายคาทอลิก โปรเตสแตนท์ จนถึงการยอมรับศาสนายูดาห์ นอกจากนี้ เนเธอร์แลนด์ยังเปิดเสรีกัญชาเพื่อความบันเทิง การออกกฎหมายรองรับการค้าประเวณี สิทธิเพศทางเลือก การุณยฆาต และการแท้ง การแบ่งเขตการปกครอง[แก้] ประเทศเนเธอร์แลนด์แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 12 จังหวัด (provincie) โดยแต่ละจังหวัดแบ่งเขตการปกครองออกเป็นเทศบาล (gemeenten) รวมแล้วเป็นจำนวนกว่า 355 เทศบาล[14] แต่หากแบ่งตามเขตการบริหารจัดการน้ำจะแบ่งออกเป็น 21 เขตโดยแต่ละเขตมีคณะกรรมการน้ำ (waterschap) เป็นผู้ดูแล ซึ่งเขตการจัดการน้ำนี้มีมาก่อนการก่อตั้งประเทศเนเธอร์แลนด์เสียอีก โดยเริ่มตั้งแต่ ค.
สรุปผลฟุตบอลโลก 2022 อังกฤษ เนเธอร์แลนด์มาตามนัด ผลประกบคู่
สหรัฐอเมริกา vs เวลส์ - สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยะลา
2014) อย่างไรก็ตาม การใช้ก๊าซธรรมชาติในเนเธอร์แลนด์มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากปริมาณสำรองเริ่มลดลง ความต้องการใช้ลดลง และเกิดปัญหาแผ่นดินไหวในแถบโกรนิงเงินบ่อยครั้ง นอกจากนี้ สหภาพยุโรปยังผลักดันให้ประเทศสมาชิกลดการใช้ก๊าซธรรมชาติลงและหันมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น แต่การเปลี่ยนแหล่งพลังงานมาใช้พลังงานหมุนเวียนแทนก๊าซนั้นยังเป็นเรื่องที่ทำได้ยากอยู่ เพราะมีปัจจัยทางเศรษฐกิจและการผูกขาดพลังงานโดยบริษัทใหญ่ในประเทศมาเกี่ยวข้อง[29] เกษตรกรรมและทรัพยากรธรรมชาติ[แก้] เนเธอร์แลนด์มีความสามารถรองรับเชิงนิเวศของโลก (biocapacity) ต่ำ กล่าวคือ มีการสร้างทรัพยากรชีวภาพขึ้นมาใหม่น้อย แต่ในทางกลับกัน ชาวดัตช์มีการเพาะปลูกที่เป็นระบบและมีระบบเกษตรกรรมที่เน้นการส่งออก ชาวดัตช์ราว 4 เปอร์เซ็นต์ประกอบอาชีพเกษตรกรรมแต่ผลิตสินค้าเกษตรได้ปริมาณสูงเกินความจำเป็นต่อการผลิตในอุตสาหกรรมอาหาร ส่งผลให้เนเธอร์แลนด์ส่งออกสินค้าเกษตรสูงเป็นอันดับหนึ่งในสหภาพยุโรปและสูงเป็นอันดับสองของโลก เป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกา[30] สร้างรายได้กว่า 80. 7 พันล้านยูโรในปี ค. 2014[31] สินค้าเกษตรส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ พริก มะเขือเทศ แตงกวา ตลอดจนดอกไม้และหน่อของดอกไม้ การท่องเที่ยว[แก้] สถานที่ท่องเที่ยว[แก้] พิพิธภัณฑ์โครงการเดลต้า แสดงหุ่นจำลองของพื้นที่ระบายน้ำ/ระบบกันน้ำท่วม เมืองที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเนเธอร์แลนด์ เช่น อัมสเตอร์ดัม รอตเทอร์ดาม กรุงเฮก เดลฟ์ท Keukenhof สวนดอกทิวลิป IJsselmeer Outdoor Museum/ The Zuiderzee Museum เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่แสดงวิถีชีวิตของชาวดัตช์ในสมัยโบราณ อาหารการกิน บ้านเรือนและสถาปัตยกรรม เมือง Giethorn Water City ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น Venice of Holland เป็นเมืองที่อาศัยกับลำน้ำคูคลองมีเทศกาลพาเรดกลางน้ำในตอนกลางคืนให้ชม วิธีการชมก็คือการนั่งเรือออกไป Archeon Park, อยู่ที่ Alphen aan den Rijn เป็นกึ่งสวนสนุกและพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ มีการจัดบรรยากาศให้มีความโบราณ ไล่มาตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ยุคโรมัน ยุคกลาง ฯลฯ การจัดแสดงและสื่อความหมายใช้คนแสดงเป็นหลัก Efteling Park, ที่ Kaastsheuvel เป็นสวนสนุกที่มีบรรยากาศเป็นอุทยานหรือสวนสาธารณะที่เป็นธรรมชาติ เคยได้รับรางวัล Applause award ว่าเป็นสวนสนุกที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หากใครเคยไปสวนสนุกแบบอเมริกัน เช่นดิสนีย์แลนด์มาแล้ว Efteling ให้รสชาติอีกแบบหนึ่งไม่แพ้กันเลยทีเดียว เมืองตุ๊กตา เมืองจำลอง Madurodam Miniature land เมืองจำลองขนาดเล็กที่อธิบายเกี่ยวกับสถานที่สำคัญของเนเธอร์แลนด์ได้อย่างครบถ้วน Polder museum หรือพิพิธภัณฑ์การเกิดแผ่นดินใหม่ และโครงการ Delta projects ที่แสดงเทคโนโลยีการกันน้ำท่วมของชาวดัตช์ตั้งแต่อดีต แสดงให้เห็นว่าชาวดัตช์ใช้ความรู้ ความอดทน และความเป็นนักสู้ต่อสู้กับธรรมชาติ และเรียนรู้ที่จะอยู่กับสภาพการณ์นั้นอย่างชาญฉลาดอย่างไร วิศวกรรมและศาสตร์ต่างๆที่เกี่ยวข้องถูกนำมาจัดแสดงในหลากหลายระดับ ให้คนเลือกดูเลือกชมและได้รับความรู้ที่แตกต่างกันไป ตามอัธยาศัย โครงสร้างพื้นฐาน[แก้] คมนาคม และ โทรคมนาคม[แก้] ระบบการสัญจรในประเทศเนเธอร์แลนด์เติบโตขึ้นอย่างมากตั้งแต่ปี ค.
VMBO (Voorbereidend Middelbaar Beroepsonderwijs) เป็นการศึกษาในช่วงอายุ 12-16 ปี ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างหลักสูตรวิชาชีพกับทฤษฎี ซึ่งร้อยละ 60 ของนักเรียนจะเลือกหลักสูตรนี้ 2. HAVO (Hoger Algemeen Voortgezet Onderwijs) มีทั้งหมด 5 ระดับชั้น ตั้งแต่นักเรียนอายุ 12-17 ปี เมื่อเรียนจบสามารถเข้าเรียนต่อใน HBO ได้ 3. VWO (Voorbereidend Wetenschappelijk Onderwijs) มีทั้งหมด 6 ระดับชั้น ตั้งแต่นักเรียนอายุ 12-18 ปี ซึ่งสามารถเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้ 4. MBO (Middelbaar Beroepsonderwijs) เป็นการศึกษาต่อจาก VMBO มี 4 ปีการศึกษา ระดับอุดมศึกษา จะแบ่งออกเป็นปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอกและดำเนินตาม กระบวนการโบโลญญ่า (Bologna Process) 1. MBO (Middelbaar Beroepsonderwijs) 2. HBO (Hoger Beroepsonderwijs) เป็นสถานบันฝึกวิชาชีพขั้นสูง แต่จะไม่เทียบเท่ากับการเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งผู้ที่จบ HBO แล้วต้องเรียน Pre-master ก่อนที่เจ้าเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้ 3. WO (Wetenschappelijk Onderwijs) หลักสูตรนี้จะเน้นหนักไปทางวิชาการ ในระดับปริญญาตรีส่วนใหญ่จะใช้เวลา 3 ปี ระดับปริญญาโทจะใช้เวลาเรียน 1 ปี ส่วนระดับปริญญาเอกจะใช้เวลาเรียน 4-5 ปี มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของเนเธอร์แลนด์มีหลายแห่งด้วยกัน เช่น มหาวิทยาลัยไลเดิน มหาวิทยาลัยอัมสเตอร์ดัม มหาวิทยาลัยไฟรย์อัมสเตอร์ดัม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเดลฟท์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีไอนด์โฮเฟิน มหาวิทยาลัยโกรนิงเงิน มหาวิทยาลัยมาสทริชท์ มหาวิทยาลัยรัดเบาด์ไนเมเคิน มหาวิทยาลัยเอรัสมุสรอตเทอร์ดาม มหาวิทยาลัยติลบูร์ค มหาวิทยาลัยทเว็นเตอ มหาวิทยาลัยยูเทรกต์ และมหาวิทยาลัยวาเคินนิงเงิน สาธารณสุข[แก้] เนเธอร์แลนด์มีระบบสาธารณสุขที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในเกณฑ์ดีมาก [41] หลังจากที่มีการปฏิรูประบบครั้งใหญ่ในปี ค.
1572 มีส่วนในการสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับจักรวรรดิดัตช์ เริ่มมีการเกณฑ์ทหารหลังจากที่พ่ายสงครามนโปเลียน หลังจากนั้น เนเธอร์แลนด์ดำเนินนโยบายเป็นกลาง แต่กลับถูกกองทัพเยอรมนีรุกรานในสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงได้ยกเลิกนโบายเป็นกลางและลงนามในสนธิสัญญาบรัสเซลส์ จึงเป็นประเทศร่วมก่อตั้งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือในปี ค. 1949 หลังจากนั้น ได้มีส่วนร่วมกับการรบในสงครามเย็น (สงครามเกาหลี) วิกฤตการณ์คอซอวอ โซมาเลีย และ อัฟกานิสถาน รวมถึงปฏิบัติการรักษาสันติภาพของ สหประชาชาติ และ สหภาพยุโรป กองทัพเนเธอร์แลนด์นั้นแบ่งออกเป็น 4 เหล่าทัพ ได้แก่ กองทัพบก (Koninklijke Landmacht หรือ KL) กองทัพเรือ (Koninklijke Marine หรือ KM) กองทัพอากาศ (Koninklijke Luchtmacht หรือ KLu) และ กองสารวัตรทหาร (Koninklijke Marechaussee หรือ KMar) กองกำลังกึ่งทหาร[แก้] เศรษฐกิจ[แก้] ท่าเรือรอตเทอร์ดาม ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศพัฒนาแล้ว และมีบทบาทสำคัญเศรษฐกิจของยุโรปมาแล้วช้านานหลายศตวรรษ ชาวดัตช์ดำเนินกิจการเดินเรือ ประมง เกษตรกรรม ค้าขาย และธนาคารมายาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เศรษฐกิจมีเสรีภาพสูง ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันเชิงเศรษฐกิจสูงที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลกใน ค.
Eurostat. สืบค้นเมื่อ 9 July 2020. ↑ Human Development Report 2020 The Next Frontier: Human Development and the Anthropocene (PDF). United Nations Development Programme. 15 December 2020. pp. 343–346. ISBN 978-92-1-126442-5. สืบค้นเมื่อ 16 December 2020. ↑ "North Sea". Ministry of Defence. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-11-03. สืบค้นเมื่อ 6 March 2012.
เนเธอร์แลนด์ vs กาตาร์-【อิหร่าน vs สหรัฐอเมริกา】
ประเทศเนเธอร์แลนด์ - วิกิพีเดีย